วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

MV (คนไทยหัวใจเดียวกัน)


Happy Vampires โหลดเพลงแกรมมี่แบบไม่ยั้ง แค่เดือนละ 20 บาท Click ที่นี่เลย

ใบงานที่ 14

จุดเด่นของ web blog
สามารถแยกเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
1.เป็นสื่อที่ใช้ในการแสดงความคิดเห็น ความรู้สึกของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เพื่อเสนอให้ผู้คน สาธารณะได้รับรู้
2.เป็น เครื่องมือช่วยในด้านธุรกิจ เช่น การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหวขององค์กร การเสนอตัวอย่างสินค้า การขายสินค้า และการทำการตลาดออนไลน์ เป็นต้น
3.เป็นแหล่งความรู้ใหม่ๆ ที่ถูกต้องและชัดเจน จากผู้นั้น เนื่องจากผู้เขียน Blog มักจะเขียนถึงเรื่องที่ตัวเองถนัด ชอบ และมีมีความรู้เฉพาะด้านๆความรู้ลึกในเรื่องนั้นๆ การค้นหาข้อมูลเฉพาะด้านใน Blog ต่างๆ จึงทำให้เราค้นพบความรู้ และผู้มีความรู้ความชำนาญในด้านต่าง ๆ ได้รวดเร็วขึ้น
4.ทำให้ทันต่อ เหตุการณ์ในโลกปัจจุบัน เพราะข่าวสารความรู้ มาจากผู้คนมากมาย(ทั่วโลก) และมักจะเปลี่ยนแปลงได้ทันกับเหตุการณ์ปัจจุบันเสมอ
จุดด้อยและข้อเสนอแนะ
1.blogspot.com จะสร้างยากกว่าและแก้ไขยากกว่า ต้องใช้หลายเมนู
2.ควรใช้blogspot.com ในการนำเสนอข้อมูลทั่วไปเช่น ประวัติโรงเรียน ทำเนียบบุคลากร ที่ไม่ต้องอัพเดท ข้อมูลให้เป็นปัจจุบันมากนัก
เปรียบเทียบ blogspot.com กับblog gotoknow ทั้งสอง blog มีลักษณะคล้ายกัน คือ
1.เป็นเครื่องมือสร้างความรู้
2.เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ความรู้
3.ใช้เป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยนความรู้
4.การ เขียน blog สำหรับบันทึกเล่าเรื่องราว ข่าวสาร ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ในสิ่งที่ผู้เล่าสนใจ เป็นการถ่ายทอดสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในสมองลงสู่ตัวหนังสือ การเขียนต้อง มีอิสระทางความคิดในรูปแบบที่เป็นตัวของตัวเอง จะช่วยอำนวยให้การดึงเอาความรู้ฝังลึกถูกแสดงออกมาได้โดยไม่ยากนัก
5.การเขียน blog อยู่เป็นประจำก็สามารถนำมาสู่การสร้างขุมความรู้ (Knowledge Assets) อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ การเก็บรวบรวมและการแก้ไขหรือเพิ่มเติมความรู้ก็ทำได้โดย สะดวกรวดเร็ว ส่วนระบบ blog ที่เป็นแบบชุมชน เช่น GotoKnow.org จะยิ่งช่วยทำให้ขุมความรู้ถูกร่วมมือกันสร้างขึ้นได้อย่างรวดเร็ว กลายเป็นขุมความรู้ที่เชื่อมโยง ซึ่งน่าจะเป็นแหล่ง KM blog ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
6.การเขียน blog จะอนุญาตให้ผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็นต่อความรู้ที่ผู้เขียนถ่ายทอดลงไป ใน blog และผู้เขียนได้เขียนโต้ตอบต่อความคิดเห็นนั้นๆ ไปๆ มาๆ ในลักษณะของการสนทนาเพื่อหาความแตกฉานในตัวความรู้ ถือได้ว่าเป็นการร่วมกันสกัดความรู้ฝังลึกได้อย่างดี

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ใบงานที่ 13


ในช่วงที่มีการไปศึกษาดูงาน ข้าพเจ้าไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมดังกล่าว เนื่องด้วยความจำเป็นส่วนตัว แต่ข้าพเจ้าได้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมและเสริมความรู้ความสามารถให้กับตัวเอง โดยจัดทำโครงการการแข่งขันทักษะทางวิชาการ คนเก่งฉวาง 53 ณ โรงเรียนฉวางรัชดาภิเษก

ใบงานที่ 10


ประวัติ

ชื่อนายวรวิชญ์ ทิพย์มลสวัสดิ์
เกิดวันที่ 30 ธันวาคม 2501
สถานที่เกิด ตำบลกะเบียด อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
สถานที่ทำงานปัจจุบัน 139 หมู่ที่ 1 ตำบลฉวาง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ประวัติการศึกษา
2517 มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนอักษรวิทย์
2519 มัธยมตอนปลาย โรงเรียนจรัสพิชากร
2521 ประกาศนียบัตร การศึกษาชั้นสูง วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช
2530 ปริญญาตรี คุรุศาสตร์ การวัดผลการศึกษา วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช
ประวัติการทำงาน
2521 ครูโรงเรียนอักษรวิทย์
2533 ครูโรงเรียนบ้านหนองโสน อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร
2538 ครูโรงเรียนวัดควนกอ อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช
2542 ครูโรงเรียนวัดสามัคคีนุกูล อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมรา

วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ใบงานที่ 12


การใช้โปรแกรม SPSS
1. ขั้นตอนการเรียกใช้โปรแกรม
คลิก Start -> All Programs -> SPSS for Windows -> SPSS 11.5 for Windows
หรือ Double Click ไอคอนบนหน้าจอ Windows
2. ส่วนประกอบหลักของ SPSS FOR WINDOWS
เมื่อเปิดโปรแกรมจะได้หน้าต่างที่มีส่วนประกอบดังต่อไปนี้
-Title Bar บอกชื่อไฟล์ เช่น Untitled-SPSS Data Editor (หากเปิดครั้งแรก)
-Menu Bar คำสั่งการทำงาน
-Cell Editor กำหนดค่าตัวแปร
-Cases ชุดของตัวแปร
-Variable กำหนดชื่อตัวแปร
-View Bar มีสองส่วน ได้แก่ Variable View (สร้างและแก้ไขโครงสร้างตัวแปร) และ Data View (เพิ่มและแก้ไขตัวแปร)
-Status Bar แสดงสถานการณ์ทำงาน
3. การป้อนข้อมูลจากหน้าจอData Editor
3.1 เปิด SPSS Data Editor โดยไปที่ File -> New -> Data
3.2 กำหนดชื่อและรายละเอียด จากหน้าจอ Variable View
3.3 ป้อนข้อมูล Data View
3.4 บันทึกข้อมูล File -> Save

ใบงานที่ 11


สำหรับการเรียนการสอนในวิชานี้ อาจเป็นสิ่งที่ค่อนข้างใหม่สำหรับครูสมัยเก่าอย่างผม แต่อาจารย์ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า โลกปัจจุบันมีความจำเป็นอย่างมากในโลกของ IT ทำให้ผมตระหนักว่าถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลงและยอมรับในสิ่งใหม่ๆที่จะนำพาองค์ไปสู่ความเป็นเลิศ ซึ่งอาจารย์ได้ทุ่มเทความรู้ความสามารถสั่งสอนนักศึกษาอย่างเต็มความสามารถ

ใบงานที่ 9



คุณลักษณะของผู้บริหารมืออาชีพ
มีลักษณะเด่น ๆ ดังนี้
1. การครองตน ผู้บริหารต้องสร้างคุณค่าให้เป้นที่ประจักษ์โดยการสร้างศรัทธา
เป็นที่ยกย่องและชื่นชมของบุคคลอื่นโดยมีลักษณะดังนี้
1) มีกิริยามารยาทดีและแต่งกายดี
2) มีความเป็นผู้ใหญ่ สมำเสมอ คงเส้นคงวา เชื่อถือได้
3) ฝักใฝ่หาความรู้ และประสบการณ์เพิ่มเติมอยู่เสมอ
4) พูดจาไพเราะต่อบุคคลอื่น
5) มีวินัยในตนเอง
6) ยึดหลักธรรมคำสอนของศาสนา
2. การครองคน ผู้บริหารต้องสามารถปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติงาน
ร่วมกันจนบรรลุวัตถุประสงค์ อยู่ด้วยกันด้วยความสุขให้ความรัก ความเมตตาต่อกัน
เสริมสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี โดยมีลักษณะดังนี้
1) ประพฤติดี ประพฤติชอบ
2) มีความหนักแน่น
3) มีความยุติธรรม
4) มีอัธยาศัยดี
5) ยึดหลักธรรม
3. การครองงาน ผู้บริหารต้งอมีความสามารถในหน้าที่การงานอย่างดี
สิ่งที่จะทำให้ผู้บริหารประสบความสำเร็จในการครองงาน
1) มีความรอบรู้ ประสบการณ์ ทักษะในการงานของตน
2) มีความรับผิดชอบสูง
3) มีความคิดสร้างสรรค์ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เตรียมรับ
กับปัญหา วางแผนที่จะดำเนินงานในอนาคต
4) ยึดหลักธรรมประจำใจ

ใบงานที่ 8



โปรแกรม SPSS OF WINDOWS

สถิติ หมายถึง ตัวเลขที่ให้ข้อความต่างๆ ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นตัวเลขเกี่ยวกับการบริหารงานของรัฐเท่านั้น ตัวเลขนี้มักจะอยู่ในลักษณะของยอดรวม ซึ่งประมวลมาได้จากข้อมูลเบื้องต้น หรือบางครั้งเป็นตัวเลขที่เป็นผลมาจากการวิเคราะห์เปรียบเทียบหรือจากการคิดคำนวณ หรือจากการจัดกระทำตามระเบียบวิธีสถิติกับข้อมูลอื่น ๆหลายรายการ

ค่าเฉลี่ย ทางสถิติ หมายถึง ค่ากลางของข้อมูลแต่ละชุด เช่น ค่าเฉลี่ยเลขคณิต
ค่ามัธยฐาน ค่าที่มีตำแหน่งอยู่กึ่งกลางของข้อมูลทั้งหมด เมื่อเรียงค่าของข้อมูลจากน้อยที่สุดไปหามากที่สุดหรือจากมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
ค่าฐานนิยม คือ ค่าที่ซ้ำกันมากที่สุด
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน รากที่สองของค่าเฉลี่ยของกำลังสองของส่วนเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ยเลข
คณิต ใช้วัดการกระจายของข้อมูล เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ s

ประชากร หมายถึง กลุ่มสมาชิกทั้งหมดที่ต้องการศึกษา อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ได้
กลุ่มตัวอย่าง หมายถึง กลุ่มสมาชิกที่ถูกเลือกมาจากประชากรด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งเพื่อเป็นตัวแทนในการศึกษาและเก็บข้อมูล

มาตราการวัดระดับนามบัญญัติ (Nominal Scale) เป็นระดับที่ใช้จำแนกความแตกต่างของสิ่งที่ต้องการวัดออกเป็นกลุ่ม ๆ โดยใช้ตัวเลข
มาตราการวัดระดับเรียงอันดับ (Ordinal Scales) เป็นระดับที่ใช้สำหรับจัดอันดับที่หรือตำแหน่งของสิ่งที่ต้องการวัด ตัวเลขในมาตราการวัดระดับนี้เป็นตัวเลขที่บอกความหมายในลักษณะมาก-น้อย สูง-ต่ำ เก่ง-อ่อน กว่ากัน
มาตราการวัดระดับช่วง (Interval Scale) เป็นระดับที่สามารถกำหนดค่าตัวเลขโดยมีช่วงห่างระหว่างตัวเลขเท่า ๆ กัน สามารถนำตัวเลขมาเปรียบเทียบกันได้ว่าว่ามีปริมาณมากน้อยเท่าใด แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นกี่เท่าของกันและกัน เพราะมาตราการวัดระดับนี้ไม่มี 0 (ศูนย์) แท้ มีแต่ 0 (ศูนย์) สมมติ
มาตราการวัดระดับอัตราส่วน (Ratio Scale) เป็นระดับที่สามารถกำหนดค่าตัวเลขให้กับสิ่งที่ต้องการวัด มี 0 (ศูนย์) แท้ เช่น น้ำหนัก ความสูง อายุ เป็นต้น ระดับนี้สามารถนำตัวเลขมาบวก ลบ คูณ หาร หรือหาอัตราส่วนกันได้ คือสามารถบอกได้ว่า ถนนสายหนึ่งยาว 50 กิโลเมตร ยาวเป็น 2 เท่าของถนนอีกสายหนึ่งที่ยาวเพียง 25 กิโลเมตร

ตัวแปร คือ คุณลักษณะหรือคุณสมบัติของสิ่งต่างๆ ที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต สามารถนำมาศึกษาวัดได้ นับได้ หรือแจกแจงได้ คุณลักษณะและคุณสมบัติเหล่านี้เปลี่ยนแปลงได้ หรือเปลี่ยนค่าได้ อาทิ ความคิดเห็น ความพึงพอใจ ฐานะทางการเงิน ฐานะทางสังคม จำนวนสมาชิกในครอบครัว
ตัวแปรต้น (Independentvariables) หมายถึงตัวแปรที่สามารถมีผลกระทบทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อตัวแปรอื่นๆได้
ตัวแปรตาม (Dependentvariables) หมายถึง ตัวแปรที่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากตัว แปรต้น

สมมติฐาน คือ คำสรุปโดยอาศัยการเดาเพื่อคาดการณ์ล่วงหน้า และคำสรุปนั้นยังไม่คงทีแน่นอนตายตัว มีรากฐานมาจากความเป็นจริง สามารถทดสอบได้โดยการใช้ข้อมูล สมมติฐานอาจเป็นคำพูดที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อทำนายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น
ประเภทของสมมุติฐานการวิจัย
1.สมมุติฐานที่เน้นการตอบปัญหาโดยไม่คำนึงมีการทดสอบทางสถิติ
2.สมมุติฐานที่เน้นการตอบปัญหาโดยการทดสอบทางสถิติ

T – test เป็นการทดสอบนัยสำคัญของค่าเฉลี่ย เหมาะสำหรับถ้าตัวแปรเป็นตัวแปรเชิงปริมาณที่สามารถวัดค่าได้
F – test (หรือ ANOVA) เป็นการทดสอบนัยสำคัญของค่าเฉลี่ยตั้งแต่สองกลุ่มขึ้นไป

ใบงานที่ 7

สร้าง Blogger
1. เข้าไปทีเว็บไซต์ Blogger.com จะปรากฏหน้าจอ ให้คลิกที่ Create Your Blog Now เพื่อไปสู่ขั้นตอนต่อไป
2. กรอกรายละเอียดต่างให้ครบทุกช่อง ซึ่งประกอบด้วย อีเมล์ รหัสผ่าน ยืนยันรหัสผ่าน และกรอกตัวอักษรที่ปรากฏขึ้นมา พร้อมติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง I accept the Terms of Service เพื่อยอมรับข้อตกลงต่างๆ ตามลำดับ เสร็จแล้ว Continue เพื่อไปขั้นตอนต่อไป
3. กรอกรายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับ Blog กรอกชื่อ Blog (URL ของ Blog ที่เราต้องการ) คลิก Continue ไปสู่ขั้นตอนต่อไป
4. เลือกรูปแบบ (Theme-Template) ที่เราต้องการครับ มีให้เลือกเยอะดี เลือกได้ตามใจชอบ
5. เสร็จเรียบร้อยสมดังตั้งใจ คลิกที่ Start Posting เพื่อเริ่มเขียน Blog

การใส่ Glitter ใน Blog
1.คลิกเลือก tab “โค้ด HTML”
2.จากนั้นจึงนำโค้ด embed ของ Glitter ที่เราต้องการใส่ลงไป
ตัวอย่างโค้ด embed จากเว็บไซต์ http://widget.sanook.com
3.เมื่อคลิกกลับมาที่ tab “มุมมองปรกติ” อีกครั้ง ก็จะเห็นกลิตเตอร์น่ารักๆ
4.ตกแต่ง Blog ให้สวยงามแล้วคลิกปุ่ม “บันทึก” ก็เสร็จเรียบร้อย

วิธีแรก ปรับให้หัวข้อเรื่อง หรือ keyword มาก่อน description ตรง title bar
1. ไปที่ Layout -> Edit HTML
2. หา <data:blog.pageTitle/>
3. แทนที่ด้วย code

ทำภาพสไลด์โชว์รูปสวยๆ ใส่บล็อก ด้วยเว็บ slide.com
เมื่อเข้าไปหน้าแรกแล้วจะเห็นปุ่ม browse
ให้คลิกปุ่ม browse เลือกรูปของเรา แล้วก็เลือก skins เลือก themes ,effects ต่างๆเยอะแยะ และสามารถเอาเพลงใส่ได้ด้วย
เมื่อเลือกตกแต่งจนพอใจแล้ว ก็จะได้โค๊ดมา ให้เอาโค๊ดนั้นไปใส่ในบล็อก

วิธีใส่เพลงในบล็อก
ถ้าเราต้องการจะใส่เพลงใน entryปรับหน้า ให้สามารถใช้ Code Html ก่อน
แล้วจึงนำ Code… ต่อไปนี้ ใส่ไปนะคะ
width=”180″ height=”64″ bgcolor=”ffffff” autoplay=”true”
cache=”true” enablejavascript=”true”
controller=”true”>
จากนั้นก็เปลี่ยน Link http://www.xxx/xxxx/xxxx/song.wma